


โปรแกรมทัวร์ เวียงจันทน์ วังเวียง หลวงพระบาง ไปรถ - กลับรถ 4 วัน 3 คืน
วันที่หนึ่ง : จ.อุดรธานี/จ.หนองคาย-เวียงจันทน์–เมืองวังเวียง (B/L/D)
06.00 น. คณะถึง อ.เมืองหนองคาย เจ้าหน้าที่ บริษัทอุ้มรักทัวร์ ให้การต้อนรับ รับประทานอาหารเช้า(1)ณ ร้านอาหาร ออกเดินทางสู่ด่าน ผ่านพิธีตรวจคนเข้าเมือง ข้ามแม่น้ำโขงด้วย สะพานมิตรภาพไทย-ลาว ชมวิวของแม่น้ำโขงที่หล่อเลี้ยงไทยและลาวมายาวนาน เข้าสู่ ด่านท่านาแล้ง นครหลวงเวียงจันทน์ เมืองหลวงเอกของประเทศลาว ผ่านใจกลางเมือง ย่านเศรษฐกิจต่างๆ
09.00 น. นำคณะเข้านมัสการ พระธาตุหลวงเวียงจันทน์ องค์พระธาตุมีความสูง 45 เมตร สร้างเพื่อบรรจุพระบรมสารีริกธาตุส่วนหัวเหน่า 27 พระองค์ ซึ่งได้อัญเชิญมาจากเมืองราชคฤห์ ประเทศอินเดีย สมเด็จพระไชยเชษฐาธิราชทรงบูรณะขึ้นใหม่ภายหลังจากถูกพวกจีนฮ่อขุดหาสิ่งของมีค่ารื้อส่วนยอดพระธาตุลงมาถึงชั้นบัลลังก์ ตามตำนานกล่าวว่าพระธาตุหลวงมีประวัติการก่อสร้างนับพันปีเช่นเดียวกัน พระธาตุพนม ในประเทศไทย นับเป็นศูนย์รวมใจของประชาชนชาวลาวทั่วประเทศ และปรากฏความเกี่ยวพันกับประวัติศาสตร์ของดินแดนทางฝั่งขวาแม่น้ำโขงอย่างแยกไม่ออก

ต่อด้วยเก็บภาพที่ระลึกหน้าประตูชัย สร้างเสร็จในปี พ.ศ. 2512 เป็นอนุสรณ์สถานเพื่อระลึกถึงประชาชนชาวลาวผู้เสียสละชีวิตในสงครามก่อนหน้าการปฏิวัติของพรรคอมมิวนิสต์ลักษณะสถาปัตยกรรมได้รับอิทธิพลของประตูชัยในกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส แต่ลักษณะสถาปัตยกรรมก็ยังมีเอกลักษณ์ของลาวปรากฏให้เห็นอย่างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นพระพุทธรูปศิลปะลาว ภาพเรื่องราวมหากาพย์รามายณะ แบบปูนปั้นใต้ซุ้มประตูโค้งของประตูชัย ขึ้นบันไดไปชมทิวทัศน์ของนครเวียงจันทน์ แวะนมัสการ เจ้าแม่ศรีเมือง วัดศรีเมืองสร้างขึ้นในปีพ.ศ.2106 โดยพระเจ้าไชยเชษฐาธิราชได้ลงความเห็นให้สร้างวัดศรีเมือง ณ ที่แห่งนี้ ต่อมาถูกกองทัพสยามทำลายลงในปีพ.ศ.2371 และสร้างวัดศรีเมืองขึ้นมาใหม่ในปี พ.ศ.2458 ภายในวัดศรีเมืองมีพระพุทธรูปเก่าแก่ประดิษฐานอยู่มากมายนับเป็นศาลหลักเมืองสิ่งศักดิ์สิทธ์คู่บ้านคู่เมืองเวียงจันทน์

12.00 น. รับประทานอาหารเที่ยง(2) ณ ภัตตาคาร ในเมืองเวียงจันทน์ ออกเดินทางมุ่งหน้าสู่ เมืองวังเวียง ระยะทาง 156 ก.ม.ผ่านเมืองโพนโฮงหมู่บ้านท่าเรือที่มีอาชีพ หาปลาจากเขื่อนน้ำงึม
16.00 น. ถึงเมืองวังเวียง เที่ยวชม เมืองวังเวียง ดินแดนสุขาวดี มีธรรมชาติงดงามด้วยภูเขาหินปูนสูงชันตั้งเด่นตระหง่าน มี แม่น้ำซอง ที่ใสสะอาดไหลผ่าน อากาศเย็นสบาย เป็นสถานที่นักท่องเที่ยวต่างชาตินิยมมา ต่างให้สมญานามว่าเปรียบเสมือน กุ้ยหลินแห่งเมืองลาว ขึ้นชม ถ้ำจัง ข้ามแม่น้ำซองด้วยสะพาน แขวน ขึ้นบันได 137 ขั้น ลอดถ้ำ ชม ปฎิมากรรมหินงอกหินย้อย และทิวทัศน์เมืองวังเวียงในมุมสูง
18.00น. รับประทานอาหารค่ำ(3) ณ ภัตตาคาร เข้าที่พัก โรงแรมภูอ่างคำ (หรือเทียบเท่า) หรือจะเช่าจักรยานปั่น ชมบรรยากาศตอนเย็นของเมืองวังเวียงตรอกข้าวสารเมืองลาวที่เต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ
วันที่สอง : เมืองวังเวียง–เมืองหลวงพระบาง-น้ำตกตาดกวางซี (B/L/D)
06.00น. อรุณสวัสดิ์ยามเช้าเก็บภาพบรรยากาศตอนเช้าอุ่นไอไปด้วยสายหมอกแสงแดดอ่อนๆ พร้อมรับประทานอาหารเช้า(4) หลังอาหาร
08.00 น. ออกเดินทาง สู่ เมืองหลวงพระบาง ผ่านผาตั้ง ผาล้อม พูนม พูช้าง ชื่อตามจินตนาการ สวยงามแปลกตาผ่าน เมืองกาสี ขึ้นภูเขาสูงเฉียดฟ้า บรรยากาศสองข้างทางสวยงามจับใจ ธรรมชาติอันงดงาม ตระการตาด้วยทิวเขาสลับซับซ้อน หลากหลาย แล้วแต่จินตนาการ เป็นรูปลักษณ์ต่างๆ เป็นเส้นทางที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งในเอเชียอาคเนย์ ผ่านหมู่บ้านลาวสูงที่อาศัยอยู่ตามไหล่เขา แวะพักที่จุดชมวิว ยอดภูเก้าหลัก เส้นทาง เมืองกาสี-หลวงพระบาง
12.00น.รับประทานอาหารเที่ยง(5)ที่ร้านอาหาร ก่อนออกเดินทางต่อ
15.00น. ถึงเมืองหลวงพระบาง เมืองมรดกโลก ซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกเมื่อเดือนธันวาคม พ.ศ. 2538 ด้วยเหตุผลก็คือเมืองหลวง มีวัดวาอารามเก่าแก่มากมาย มีบ้านเรือนเป็นเอกลักษณ์ ตัวเมืองตั้งอยู่ริมแม่น้ำโขงและแม่น้ำคาน ซึ่งไหลบรรจบกันท่ามกลางธรรมชาติอันงดงาม และชาวเมืองหลวงพระบางมีบุคลิกที่ยิ้มแย้มแจ่มใส เป็นมิตร มีขนบธรรมเนียมประเพณีที่งดงาม แวะเช็คอินท์เก็บสัมภาระ พร้อมเตรียมตัวออกไปเล่นน้ำตกออกเดินทางไปชมน้ำตกที่สวยที่สุดในเขตหลวงพระบาง น้ำตกตาดกวางซี ห่างจากหลวงพระบาง 30 กิโลเมตร ไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ หนึ่งในน้ำตกที่สวยที่สุดในเขตหลวงพระบาง ชมความงามของน้ำตกที่ตกลดหลั่นเป็นชั้นๆ อย่างสวยงามแต่ละชั้นเกิดจากการผสมของหินปูนสูงราว 70 เมตร มี 2 ชั้น สภาพป่าร่มรื่นและบริเวณโดยรอบน้ำตกนั้นก็ยังป่าอุดมสมบูรณ์ เนื่องจากตัวน้ำตกตั้งอยู่ในเขตป่าสงวน มีสะพานและเส้นทางเดินชมรอบๆ น้ำตก (สามารถเล่นน้ำตกได้)
18.00 น.รับประทานอาหารค่ำ(6)ที่ ร้านมีชัยผล เข้าที่พัก โรงแรมสายสัมพันธ์ (3ดาว) หรือเทียบเท่า

วันที่สาม : ซิติ้ทัวร์เมืองหลวงพระบาง (B/L/D)
05.30 น. อรุณสวัสดิตอนเช้า ร่วม ตักบาตรข้าวเหนียว ประเพณีสืบทอดจากแก่นในจิตใจของชาวหลวงพระบาง และยังคงเป็นมนต์ตรา ที่ใครได้พบเห็นจะตราตรึงความเลื่อมใสด้วยใจบริสุทธิ์ที่แท้จริง แสงพระอาทิตย์สีทอง กระทบจีวรเหลืองอร่ามเปล่งประกาย เรือนโบราณเป็นฉากหลัง ต่อด้วยเดินชม ตลาดยามเช้าหลวงพระบาง ศึกษาวิถีชีวิตแบบเรียบง่ายของชาวหลวงพระบาง ที่ออกมาจับจ่ายซื้อของที่ตลาดตอนเช้า หรือ นั่งจิบกาแฟประชานิยม

07.00 น. รับประทานอาหารเช้า (7) ณ ห้องอาหารของโรงแรม เข้าชม วัดวิชุล สร้างขึ้นโดยพระเจ้าวิชุนราชในราวปี พ.ศ. 2057 วัดนี้ผ่านการเผาทำลายโดยจีนฮ่อที่เข้ามาปล้นเมืองในอดีตและได้รับการบูรณะ ใหม่ในปี พ.ศ. 2457 โดยนายช่างชาวฝรั่งเศสผู้ที่ได้ทำการบูรณะนครวัด จุดเด่นของวัดแห่งนี้ คือ เป็นที่ประดิษฐานพระธาตุหมากโม พระธาตุที่มีลักษณะพิเศษคล้ายผลแตงโมคว่ำ คล้ายสถูปแบบฟองน้ำที่สาญจี ประเทศ อินเดีย พระพุทธรูปแบบลังกาหรือสุโขทัย ซึ่งพระธาตุหมากโมเคยถูกปฏิสังขรณ์มาแล้ว 2 ครั้ง ในปีพ.ศ.2402 รัชสมัยเจ้ามหาชีวิตสักรินทร์ (คำสุก) และบูรณะอีกครั้งในปีพ.ศ. 2457 รัชสมัยเจ้ามหาชีวิตศรีสว่างวงศ์ ซึ่งในการบูรณะครั้งนี้ ได้ค้นพบโบราณสถานศิลปวัตถุมากมาย เช่น เจดีย์ทองคำ พระพุทธรูปหล่อสำริด พระพุทธรูปทองคำ พระพุทธรูปเงิน และ โดยเฉพาะพระพุทธรูปที่แกะสลักจากแก้ว เช่น เดียวกับพระแก้วมรกต ปัจจุบันโบราณวัตถุเหล่านี้ได้เก็บรักษาไว้ในพระราชวังหลวงพระบาง ในปัจจุบันได้เปิดส่วนหนึ่งเป็นพิพิธภัณฑ์เพื่อเก็บรักษาโบราณวัตถุสำคัญๆ รวมไปถึง ซุ้มประตูโขง ในพระอุโบสถที่เป็นซุ้มประตูโขงที่เก่าแก่ที่สุดของเมือง ต่อด้วยเข้าชมหอพิพิธภัณฑ์แห่งชาติ ชม พระราชวังหลวง ขึ้นในปีพ.ศ. 2477 เพื่อเป็นที่ประทับของเจ้ามหาชีวิตศรีสว่างวงศ์ ออกแบบโดยสถาปนิกชาวฝรั่งเศส สร้างฐานซ้อนกันหลายชั้น หลังคามุงกระเบื้อง นับเป็นการผสมผสานความงดงามของตัวอาคารแบบฝรั่งเศสกับศิลปะแบบล้านช้างในตัว พระราชวังได้อย่างลงตัว เจ้ามหาชีวิตศรีสว่างวงศ์ประทับอยู่ที่พระราชวังหลวงพระบางจวบจนสิ้นพระชนม์

ต่อมาเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงในปี พ.ศ. 2518 พระราชวังแห่งนี้ได้ถูกเปลี่ยนเป็นพิพิธภัณฑ์ โดยมีข้าวของเครื่องใช้ของเจ้ามหาชีวิตลาวจัดแสดงไว้ให้เข้าชม ต่อด้วยเข้าชม หอพระบาง ภายในเป็นสถานที่ประดิษฐานพระบาง พระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองของหลวงพระบางและยังเป็นที่มาของชื่อเมืองหลวงพระบาง โดยพระบางหล่อขึ้นด้วยทองคำบริสุทธิ์เกือบทั้งองค์ น้ำหนักประมาณ 54 กิโลกรัม ลักษณะเป็นพระพุทธรูปศิลปะขอมสมัยบายนอยู่ในท่าประทับยืนปางประทานอภัยทั้งสองพระหัตถ์หรือปางห้ามสมุทร นอกจากนี้ยังมีพระพุทธรูปปางนาคปรก ศิลปะขอมสลักศิลาอีก 4 องค์ และกลองโบราณอยู่ภายในหอด้วย ส่วนฝั่งตรงข้ามกับหอพระบางเป็นที่ตั้งของอนุสาวรีเจ้ามหาชีวิตศรีสว่างวงศ์ ผู้พระราชทานรัฐธรรมนูญแก่ปวงชนชาวลาว เก็บภาพแห่งความประทับใจ
เข้าชม วัดเชียงทอง วัดเก่าแก่ที่สวยงามด้วยศิลปะแบบล้านช้าง “หลังคาปีกนก” 3 ชั้น สร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าไชยเชษฐาธิราช พ.ศ. 2102-2103 ภายในอุโบสถมีงานจิตรกรรมฝาผนังเรื่องราวในพระชาดกและนิทานพื้นบ้านสวยงาม นอกจากนั้นภายในเขตวัดยังมีพอพระม่านซึ่งเป็นที่ประดิษฐาน “พระม่าน” 1 ใน 3 พระพุทธรูปคู่เมืองของหลวงพระบาง หอพระพุทธไสยาสน์ที่มีงานประดับกระจกสีเป็นลายเรื่องราวพื้นบ้านของชาวลาว และยังเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปปางไสยาสน์อายุกว่า 400 ปี พระธาตุศรีสว่างวงศ์ซึ่งเป็นสถานที่เก็บพระอัฐิของเจ้าเมืองในอดีต และโรงราชรถพระโกศหรือ “โรงเมี้ยนโกศ” โรงราชรถเจ้าเมืองโบราณ ภายในมีราชรถไม้แกะสลักปิดทองคำเปลว และภาพแกะสลักลงรักปิดทองตอนสำคัญต่างๆ ของมหากาพย์รามเกียรติ์ วัดแห่งนี้ยังได้รับการดูแลจากเจ้ามหาชีวิตสว่างวงศ์ ที่ได้รับการกล่าวขานและได้รับการยกย่องจากนักโบราณคดีว่าเป็นสถาปัตยกรรมที่มีโดดเด่นยิ่งนักความงดงามและทรงคุณค่าเป็นดั่งอัญมณีแห่งสถาปัตยกรรมของลาวเลยทีเดียว เก็บภาพแห่งความประทับใจ

12.00 น. รับประทานอาหารเที่ยง (8)ที่ร้านอาหาร ปากห้วยมีชัย ก่อนนั่งเรือข้ามฝากขึ้นชม ถ้ำติ่ง โพรงถ้ำโบราณกลางแม่น้ำโขง มีความสูงประมาณ 60 เมตร จากพื้นน้ำมีหินงอกหินย้อย แต่ไม่สวยเด่น ในสมัยโบราณถ้ำติ่งเป็นที่สักการะบวงสรวงดวงวิญญาณผีฟ้า ผีแถน เทวดาผาติ่ง แต่ต่อมาในสมัยพระเจ้าโพธิสาราช เจ้ามหาชีวิตลาวในอดีตเสด็จมาสักการะในช่วงวันปีใหม่ลาวเป็นประจำทุกปีได้ใช้ถ้ำติ่งเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ทางพุทธศาสนาแทนการนับถือผี และเมื่อตอนค้นพบถ้ำใหม่ ๆ ได้พบพระพุทธรูปจำนวนหนึ่งที่ทำด้วยทองคำและเงิน แต่ปัจจุบันได้ถูกลักลอบออกไปจนหมด ส่วนพระพุทธรูปที่เหลือส่วนใหญ่ทำจากไม้ และเชื่อกันว่าสร้างขึ้นในศตวรรษที่ 18-19 มีทั้งปางประธารพรและปางห้ามญาติ ออกเดินทางกลับระหว่างทาง แวะ บ้านช่างไห หมู่บ้านที่ยึดอาชีพต้มเหล้ามาช้านานเลือกชมและซื้อผ้าทอมือโคมไฟ เครื่องเงิน ที่ บ้านผานม เป็นฝีมือช่างเก่าชาววัง ไว้เป็นที่ระลึกและของฝาก
17.30น. เดินขึ้นบันได 328 ขั้น สู่ยอดดอยพูสี ผ่านดงดอกจำปาลาวกลิ่นหอมให้คลายเหนื่อยถึงยอดดอย สักการะพระธาตุพูสี ที่เป็นทั้งหลักเมืองของหลวงพระบาง และยังเป็นศูนย์กลางวัฒนธรรมในอดีต พระธาตุแห่งนี้สร้างขึ้นบนภูเขาของฤๅษี มีอายุราว 227 ปี ด้านบนของพระธาตุมีจุดชมวิวเมืองที่สวยงาม บนจุดชมวิวแห่งนี้สามารถมองเห็นตัวราชธานีเก่า พระราชวังหลวงพระบาง อาคารบ้านเรือน แม่น้ำโขงและแม่น้ำคานที่ไหลผ่านโอบล้อมไปด้วยขุนเขาสมนามกล่าวขาน บ้านผาเมืองพูคู่อารยะธรรมล้านช้าง เวลาที่เหมาะแก่การขึ้นสักการะพระธาตุและถ่ายรูป-ชมวิว คือ หลังสี่โมงเย็นไปแล้ว เพราะอากาศจะเย็นสบาย ไม่ร้อนแดด ที่สำคัญยังเป็นสถานที่ชมพระอาทิตย์ตกดินที่สวยที่สุดของเมืองอีกด้วย
18.00 น. รับประทานอาหารค่ำ (9) ที่ร้าน เทพบุบผา แล้วเดินช้อบปิ้งสินค้าพื้นเมืองที่ ตลาดมืด เป็นตลาดที่ชาวบ้าน นำสินค้าที่ทำเอง ทอเอง วางขายเรียงรายตามถนนให้ท่านได้เลือกซื้อเลือกชม อาทิ โคมไฟกระดาษสา กระเป๋าปัก ผ้าปัก เครื่องเงิน ฯลฯกลับที่พัก โรงแรมสายสัมพันธ์(3ดาว) หรือเทียบเท่า หรือจะท่องราตรีต่อตามสมัครใจ

วันที่สี่ : เมืองหลวงพระบาง–นครหลวงเวียงจันทน์–จ.หนองคาย (B/L/-)
05.00 น. อรุณสวัสดิ์ตอนเช้า ออกเดินทางกลับจากหลวงพระบางเช้านิดหนึ่ง เพื่อ ชมพระอาทิตย์ขึ้นที่สวยที่สุด ท่ามกลางทะเลหมอกและภูเขาที่รับกันอย่างลงตัว พร้อมจิบกาแฟ พื้นบ้านและรับประทานอาหารเช้า (10) ณ ห้องอาหาร ผ่อนคลายตลอดการเดินทาง แวะชมวิถีชีวิตของชาวลาวสูง บนดอยภูคูณ จุดชมวิว ที่สูงที่สุดบนเส้นทาง
12.30 น. ถึง เมืองวังเวียง รับประทานอาหารเที่ยง (11) ที่ ร้านอาหารนางบด สนามบินเก่า เข้าห้องน้ำทำธุระส่วนตัว ออกเดินทางต่อสู่เมืองเวียงจันทร์
16.00 น. เข้าเขต นครหลวงเวียงจันทน์ มุ่งหน้าสู่ สะพานมิตรภาพไทย-ลาว เลือกซื้อสินค้าที่ร้านค้าปลอดภาษี ผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองนำท่านเข้าสู่ จ.หนองคาย ออกเดินทางกลับโดยสวัสดิ์ภาพ
..................................................................................................
*โปรแกรมอาจปรับเปลี่ยนได้ตามความเหมาะสมของเวลา เราจะถือเอาผลประโยชน์ของลูกค้าเป็นสำคัญ
*การไม่รับประทานอาหารบางมื้อไม่เที่ยวตามรายการ หรือถูกปฏิเสธการเข้าเมืองไม่ว่าจะเป็นกรณีใดๆทั้งสิ้นลูกค้าไม่สามารถขอหักค่าบริการคืนได้ เพราะการชำระค่าทัวร์เป็นไปในลักษณะเหมาจ่าย
สิ่งที่ควรเตรียมไป - สัมภาระส่วนตัว เช่น เสื้อแขนยาว, ร่ม, รองเท้าสวมใส่สบาย, หมวก, ไฟฉาย, ยารักษาโรค รวมทั้งคนรู้ใจ
คิดอัตราค่าบริการ รับ-ส่ง จ.หนองคาย/สนามบิน จ.อุบลราชธานี
จำนวน/ราคา
| 4-5ท่าน
| 6-7ท่าน
| 8-10ท่าน
| พักเดี่ยว
|
ที่พัก 3 ดาว
| 13,000
| 10,500
| 8,500
| 2,500 |
*ราคาเด็ก อายุ3-5 ขวบ ลดลง 50 % (ไม่มีเตียง)
*ราคาเด็ก อายุ6-10 ขวบ ลดลง 30 % (ไม่มีเตียง)
อัตรานี้รวม
- ค่าธรรมเนียมพิธีการข้ามพรมแดนไทย – ลาว
- ค่ารถยนต์นำเที่ยว ตลอดรายการ
- ค่าอาหารจำนวน 11 มื้อ
- ค่าที่พัก 3 คืน
- ค่าเข้าชมสถานที่ ค่ามัคคุเทศก์ลาว และพนักงานบริการ
- บริการ น้ำดื่ม น้ำอัดลม ผ้าเย็น อาหารว่าง ยาปฐมพยาบาล และ หมวก
- ประกันอุบัติเหตุเดินทาง ท่านละ 1,000,000 บาท ตามเงื่อนไขของกรมธรรม์
อัตรานี้ไม่รวม
- ค่าตั๋วเครื่องบินกรณีรับ-ส่ง สนามบิน จ.อุดรธานี
- ค่าVATค่าภาษีมูลค่าเพิ่มและหักภาษีหัก ณ ที่จ่าย
- ค่าใช้จ่ายที่ไม่ได้ระบุไว้ในรายการ และค่าใช้จ่ายส่วนตัว
- ค่าอาหารและเครื่องดื่ม นอกเหนือรายการ
- ค่าวีซ่าสำหรับชาวต่างชาติ
- ข้าวเหนียวสำหรับตักบาตรพระสงฆ์
- ค่าทิปไกด์ท้องถิ่น คนขับรถ และหัวหน้าทัวร์ ไม่บังคับทิป
เตรียมเดินทาง หนังสือเดินทาง(PASSPORT) มีอายุเหลือใช้งานก่อนเดินทาง 6 เดือน
เงินมัดจำล่วงหน้า 20% โอนเข้าบัญชี นายณรงค์ฤทธิ์ จันทร์ทรง
* ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาย่อยช่องเม็ก บัญชีออมทรัพย์เลขที่ 896-2-05363-4
* ธนาคารกรุงไทย สาขาโขงเจียม บัญชีออมทรัพย์เลขที่ 338-0-17263-4
* ธนาคารกสิกรไทย สาขาพิบูลมังสาหาร บัญชีออมทรัพย์เลขที่ 361-2-45730-0
นาย ณรงค์ฤทธิ์ จันทร์ทรง (อุ้ม)
084-513-5577, 062-4969889, 083-734-7555,045-476-219
เลขที่ 476 ม.13 ต.ช่องเม็ก อ.สิรินธร จ. อุบลราชธานี 34350
Email:aumlucktour@hotmail.co.th www.aumlucktour.com