


- เมืองหลวงพระบาง มรดกโลกของ สปป.ลาว
- สิบสองปันนา สัมผัสอารยะธรรมแห่งลุ่มแม่น้ำล้านช้าง วิถีชีวิตของเขตปกครองตนเอง สิบสองปันนา ดินแดนแห่งพระพุทธศาสนา
- ชมสวนป่าดงดิบ ชมโชว์นกยูงนับร้อยตัว
- ต่อด้วยชมการแสดง โชว์ระบำใต้น้ำของเหล่านางเงือก
- วัดหลวงเมืองลื้อ ซึ่งเป็นวัดที่ใหญ่ที่สุดในเมืองเชียงรุ่ง หมู่บ้านไทลื้อ เมืองใหม่9จอม12เชียง
- วัดป่าเจ ที่ถนนคนเดินเชียงรุ้ง รวมโชว์พาราณสี โชว์ที่ขึ้นชื่อและความยิ่งใหญ่อลังการ
วันที่1 :ด่านหนองคาย-สถานีรถไฟเวียงจันทน์-เมืองหลวงพระบาง-พระราชวังหลวงพระบาง-วัดเชียงทอง-ตลาดมืด
07.00น. รับคณะที่ด่านหนองคาย จากนั้นนำคณะ ผ่านพิธีการข้ามด่าน ข้ามสะพานมิตรภาพไทย-ลาวแห่งที่ 1 สู่ ด่านท่านาแล้ง สปป.ลาว แล้วออกเดินทาง สู่ สถานีรถไฟเวียงจันทน์
10.00น. รถไฟ EMUขบวนที่C92 ออกเดินทางสู่ เมืองหลวงพระบาง
12.24น. เดินทางถึง เมืองหลวงพระบาง เก็บสำภาระขึ้นรถ เดินทางเข้าตัวเมือง
เที่ยง รับประทานอาหารเที่ยง ณ ร้านอาหาร ...............
จากนั้น ชมพระราชวังหลวง ขึ้นในปีพ.ศ. 2477 เพื่อเป็นที่ ประทับของเจ้ามหาชีวิตศรีสว่างวงศ์ ออกแบบโดยสถาปนิกชาวฝรั่งเศส สร้างฐานซ้อนกันหลายชั้นหลังคามุงกระเบื้อง นับเป็นการผสมผสานความงดงามของตัวอาคารแบบฝรั่งเศสกับศิลปะแบบล้านช้าง
วันที่2 : ตักบาตรข้าวเหนียว-สถานีรถไฟเมืองหลวงพระบาง-ผ่านพิธีการรวจคนเข้าเมือง จีน-สิบสองปันนา เชียงรุ้ง-วัดป่าเจ
05.30น. อรุณสวัสดิ์ตอนเช้า ร่วมตักบาตรข้าวเหนียว ประเพณีสืบทอดของชาวหลวงพระบาง และยังคงเป็นมนต์ตรา ที่ใครได้พบเห็นจะตราตรึงความเลื่อมใสด้วยใจบริสุทธิ์ที่แท้จริง เช้า รับประทานอาหารเช้า ออกเดินทาง สู่ สถานีรถไฟหลวงพระบาง
09.50น. ออกเดินทางสู่เชียงรุ้ง รถไฟ EMUขบวนที่D88
ขบวนรถไฟ เดินทางถึงด่าน ผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองสู่ด่านบ่อหาน-จีน
เที่ยง รับประทานอาหารเทียงสถานีรถไฟ(set box)
(เวลาที่ประเทศจีนเร็วกว่าไทย1ชม.) แล้วนั่งรถไฟต่อ เดินทาง สู่ สิบสองปันนา
15.10น. เดินทางถึง สิบสองปันนา เขตปกครองตนเองชนชาติไทลื้อ สิบสองปันนา ตั้งอยู่ทางใต้สุดมณทลยูนนาน จีน มีสภาพภูมิอากาศแบบป่าฝนเขตร้อน มีฝนตกชุก อากาศไม่หนาวเย็นจนเกินไป ผืนดินจึงอุดมไปด้วยป่าไม้เขตร้อน มีความหลากหลายทางชีวภาพ มีความเขียวขจีตลอดทั้งปี มีสัตว์ป่า ช้างและนกยูงที่เป็นเสมือนสัตว์สัญลักษณ์ของสิบสองปันนา สิบสองปันนาเป็นศูนย์รวมชนเผ่าหลากหลายกว่า 13 ชนเผ่า ซึ่งหนึ่งในกลุ่มใหญ่ๆนั้นคือไทลื้อ
จากนั้น ชมวัดป่าเจ ซึ่งเป็นวัดพุทธหินยาน ตั้งอยู่ทางทิศใต้ของสวนม่านทิง ในอดีตวัดนี้เป็นวัดที่เจ้าผู้ปกครองสิบสองปันนาใช้เป็นที่ไหว้พระและประกอบศาสนกิจเป็นศูนย์กลางของพระพุทธศาสนาและเป็นวัดที่ใหญ่ที่สุดของเมืองเชียงรุ้ง
รับประทานอาหารเย็น ณ ภัตตาคาร
เข้าที่พัก โรงแรม JIN DI A (หรือเทียบเท่า) พักผ่อนตามอัธยาศัย
วันที่3 : หมู่บ้านไทลื้อ-สวนป่าดงดิบ-โชว์พาราณสี-เมืองใหม่9จอม12เชียง
07.00น. รับประทานอาหารเช้า ที่ห้องอาหารของโรงแรม
จากนั้น นำท่านเดินทางสู่ “บ้านหัวนา” หมู่บ้านไทลื้อ ที่ไปที่มาของชื่อคือ เป็นต้นนา ของเมืองเชียงรุ้ง ปัจจุบันนี้อนุรักษ์ไว้ให้นักท่องเที่ยวเข้าชมวัฒนธรรมของไทลื้อและจัดจั้งสหกรณ์หัตถกรรมของชาวบ้านด้วย ชิมชาฝูเอ่อนำท่านเที่ยวชมศูนย์วิจัยพืชสมุนไพร ซึ่งมีพืชสมุนหลากหลายชนิด ชมโรงงานหยก
เที่ยง รับประทานอาหารเที่ยง ณ ภัตตาคาร
นำท่านชม สวนป่าดงดิบ หรือ ป่าเขตร้อน ซึ่งเป็นป่าที่อุดมสมบูรณ์ด้วยพืชพันธ์นานาชนิด นำท่านนั่งรถกอล์ฟไฟฟ้า ไปชม การแสดงของนกยูงจำนวนหลายร้อยตัวบินลงมาจากยอดเขา จากสัญญาณเป่านกหวีด ชมการแสดงของอุทยานสวนป่าดงดิบ การแสดงพื้นเมือง
เย็นรับประทานอาหารเย็น ณ ภัตตาคาร (อาหารไทลื้อ)
จากนั้น พาท่านชมการแสดงชุดอลังการชื่อ โชว์พาราณสี หากท่านพลาดการเข้าชมโชว์ ชุดนี้ก็เหมือนกับท่านมาไม่ถึงสิบสองปันนา เพราะเป็นการแสดงที่สะท้อนวิถีชีวิตและวัฒนธรรมของคนสิบสองปันนา
เดินชมบรรยากาศยามค่ำคืนของ เมืองใหม่ 9 จอม 12 เชียง ซึ่งเป็นแลนด์มาร์กแห่งใหม่ของเมืองเชียงรุ้ง ข้างในมีทั้งที่ท่องเที่ยว แหล่งช็อปปิ้ง โรงแรม รีสอร์ท ไนท์พลาซ่า และตลาดน้ำสี่ภาค จีน ไทย ลาว พม่า
เข้าที่พัก JIN DI HOTEL4* หรือเทียบเท่า
วันที่4 : สนามบินเชียงรุ้ง-สนามบินเวียงจันทน์-พระธาตุหลวงเวียงจันทน์-ประตูชัย-วัดเจ้าแม่ศรีเมือง-หอพระแก้ว-ร้านเครื่องเงิน
04.00น. อรุณสวัสดิ์ยามเช้า เช็กเอ้าท์ออกจากโรงแรม
จากนั้น นำท่านเดินทางสู่สนามบินเชียงรุ้ง เที่ยวบินจาก Jinghong (JHG) ไปยัง Vientiane (VTE) เวลา 07:30 ถึง 07:55 ใช้เวลา 1.25น. โดยเป็นเที่ยวบินตรง. เที่ยวบินนี้ดำเนินการโดย Qingdao Airlines ด้วยเครื่องบิน Airbus.
07.55น. คณะเดินทาง ถึงสนามบินเวียงจันทน์ รับสัมภาระ เรียบร้อยแล้ว
พาคณะชิมเฝ่อเวียงจันทน์ นำคณะเข้านมัสการ พระธาตุหลวงเวียงจันทน์ องค์พระธาตุมีความสูง 45 เมตร สร้างเพื่อบรรจุพระบรมสารีริกธาตุส่วนหัวเหน่า 27 พระองค์ ซึ่งได้อัญเชิญมาจากเมืองราชคฤห์ ประเทศอินเดีย นับเป็นศูนย์รวมใจของประชาชนชาวลาวทั่วประเทศ ต่อด้วยเก็บภาพที่ระลึกหน้าประตูชัย สร้างเสร็จในปี พ.ศ. 2512 เป็นอนุสรณ์สถานเพื่อระลึกถึงประชาชนชาวลาวผู้เสียสละชีวิตในสงครามก่อนหน้าการปฏิวัติของพรรคอมมิวนิสต์ ลักษณะสถาปัตยกรรมได้รับอิทธิพลของประตูชัยในกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส แต่ลักษณะสถาปัตยกรรมก็ยังมีเอกลักษณ์ของลาวปรากฏให้เห็นอย่างชัดเจน นมัสการ เจ้าแม่ศรีเมือง วัดศรีเมืองสร้างขึ้นในปีพ.ศ.2106 โดยพระเจ้าไชยเชษฐาธิราชได้ลงความเห็นให้สร้างวัดศรีเมือง ณ ที่แห่งนี้ ต่อมาถูกกองทัพสยามทำลายลงในปี พ.ศ.2371 และสร้างวัดศรีเมืองขึ้นมาใหม่ในปี พ.ศ.2458 ภายในวัดศรีเมืองมีพระพุทธรูปเก่าแก่ประดิษฐานอยู่มากมายนับเป็นศาลหลักเมืองสิ่งศักดิ์สิทธ์คู่บ้านคู่เมืองเวียงจันทน์
เข้าชมหอพระแก้ว คือสถานที่เคยประดิษฐาน พระแก้วมรกต หรือ พระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร พระเจ้าไชยเชษฐาธิราช มีพระราชประสงค์ให้สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2108 เพื่อใช้เป็นที่ประดิษฐานพระแก้วมรกต ปัจจุบันเป็นที่รวบรวม ศิลปะโบราณวัตถุล้ำค่า ควรค่าแก่การศึกษา
เที่ยง รับประทานอาหารเที่ยง ชาบูหม่าล่า
หลังอาหารแวะร้านสินค้าโอท็อปให้ท่านได้เลือกชมเลือกซื้อเครื่องเงินแท้ ผ้าไหม ของเก่าและสินค้านานาชนิด ของฝากของที่ระลึกลาว ออกเดินทางสู่ ด่านท่านาแล้ง เข้าช้อบปิ้งสินค้าปลอดภาษี ที่ดิวตรี้ฟรี แล้วผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมือง สู่ หนองคาย เดินทางกลับโดยสวัสดิภาพ พร้อมความประทับใจ
สอบถามเพิ่มเติมโทร 083-7377555,084-5135577